การซื้อขายแบบสวิง (Swing Trading)

สอนเทรดฟอเร็กซ์แบบสวิง: กลยุทธ์ทำกำไรแนวโน้มระยะกลางสำหรับมือใหม่ที่มีความอดทน

อยากเรียนรู้การเทรด Forex แบบ Swing? บทความนี้อธิบายวิธีการสำหรับมือใหม่, ข้อดีข้อเสียและความเสี่ยง เหมาะสำหรับคุณที่มีความอดทนในการจับโอกาสทำกำไรจากแนวโน้มระยะกลาง
  • เว็บไซต์นี้ใช้บริการแปลภาษาด้วย AI หากคุณมีคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะ โปรดติดต่อเรา เรารอคอยคำแนะนำอันมีค่าของคุณ! [email protected]
เว็บไซต์นี้ใช้บริการแปลภาษาด้วย AI หากคุณมีคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะ โปรดติดต่อเรา เรารอคอยคำแนะนำอันมีค่าของคุณ! [email protected]

คำอธิบายการซื้อขายแบบ Swing Trading ในตลาด Forex :  การจับแนวโน้มระยะกลาง เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีความอดทนหรือไม่?

ในสไตล์การเทรดที่เราได้พูดคุยก่อนหน้านี้ (Scalping ,  Day Trading ,  Swing Trading ,  Position Trading) “Swing Trading” อยู่ในตำแหน่งกึ่งกลาง
มันไม่เหมือน Day Trading ที่ต้องเฝ้าตลาดตลอดเวลา และไม่เหมือน Position Trading ที่ต้องถือสถานะนานเป็นเดือนหรือเป็นปี
เป้าหมายของ Swing Trading คือการจับ “การแกว่ง” หรือ “ช่วงคลื่น” ของราคาที่เกิดขึ้นอย่างชัดเจนในช่วงเวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์

สำหรับนักเทรดที่ไม่สามารถติดตามตลาดได้ตลอดวัน แต่มีความอดทนรอจังหวะการเทรดพัฒนา Swing Trading อาจเป็นตัวเลือกที่ควรพิจารณา
แล้ว Swing Trading ทำงานอย่างไร? มีข้อดีและความท้าทายอะไรบ้าง? เหมาะสำหรับมือใหม่หรือไม่?
บทความนี้จะอธิบายอย่างละเอียดให้คุณเข้าใจ

1. Swing Trading คืออะไร?

Swing Trading คือสไตล์การเทรดที่มุ่งหวังทำกำไรจากความผันผวนของราคาตลาดที่เกิดขึ้นต่อเนื่องเป็นเวลาหลายวันถึงหลายสัปดาห์
แนวคิดหลักคือการระบุการเคลื่อนไหวของราคาระยะกลางที่อาจเกิดขึ้น (ไม่ว่าจะเป็นช่วงขาขึ้นหรือขาลง) เข้าเทรดเมื่อช่วงคลื่นเริ่มต้น และออกเมื่อคาดว่าช่วงคลื่นจะสิ้นสุด

ความแตกต่างจากสไตล์อื่น : 
มันไม่เหมือน การซื้อขายแบบ หรือ Day Trading ที่เน้นกำไรเล็กๆ ในระยะสั้นมาก และถือสถานะไม่นาน
และไม่เหมือน Position Trading (การเทรดระยะยาว) ที่เน้นแนวโน้มใหญ่ข้ามเดือนหรือปี เป้าหมายคือจับ “ช่วงเทรนด์” ในระยะกลาง

นักเทรดแบบ Swing พยายามจับ “คลื่น” ที่ค่อนข้างสมบูรณ์ในความผันผวนของตลาด

2. วิธีปฏิบัติทั่วไปของนักเทรด Swing

นักเทรด Swing มักจะให้ความสนใจในหลายด้านดังนี้ : 

  • กรอบเวลาหลักในการวิเคราะห์ (Timeframes) :  พวกเขามักจะวิเคราะห์กราฟในกรอบเวลาที่นานขึ้น เช่น กราฟรายวัน (D1)กราฟ 4 ชั่วโมง (H4) และบางครั้งอาจดู กราฟรายสัปดาห์ (W1) เพื่อประเมินแนวโน้มหลักของตลาดและหาโอกาส Swing Trading กรอบเวลาที่สั้นกว่า เช่น กราฟ 1 ชั่วโมง (H1) บางครั้งใช้เพื่อหาจุดเข้าและออกที่แม่นยำขึ้น
  • วิธีการวิเคราะห์หลัก (Analysis Methods) : 
    • เน้นวิเคราะห์ทางเทคนิค :  Swing Trading พึ่งพาการวิเคราะห์ทางเทคนิคเป็นหลัก นักเทรดจะใช้เส้นแนวโน้ม ,  จุดแนวรับและแนวต้านสำคัญ ,  รูปแบบกราฟที่บ่งชี้การเริ่มต้นหรือสิ้นสุดของช่วงคลื่น (เช่น รูปแบบกลับตัว ,  รูปแบบเบรกเอาท์หลังการพักตัว) ,  เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ ,  และตัวชี้วัดโมเมนตัมอย่าง RSI ,  MACD เพื่อระบุสัญญาณเทรด
    • พื้นฐานประกอบ :  แม้ว่าการตัดสินใจเข้าออกส่วนใหญ่จะอิงสัญญาณทางเทคนิค แต่ Swing Trader มักจะติดตามปฏิทินข่าวเศรษฐกิจและข่าวสำคัญที่อาจส่งผลต่อความรู้สึกตลาด เพื่อเข้าใจภาพรวมพื้นฐานและปัจจัยขับเคลื่อนหรือทิศทางอคติหลัก
  • การบริหารจัดการสถานะ :  Swing Trading หมายถึงการถือสถานะข้ามคืน หรือข้ามสุดสัปดาห์ ดังนั้นนักเทรดต้อง : 
    • ตั้ง Stop-Loss ในตำแหน่งที่กว้างกว่าการเทรดแบบ Day Trading เพื่อรองรับความผันผวนของราคาที่เกิดขึ้นในหลายวัน
    • ตั้ง Take-Profit ตามเป้าหมายของช่วงคลื่นหรือระดับเทคนิคสำคัญ
    • คำนึงถึง Swap Fee (ค่าธรรมเนียมข้ามคืน) เป็นส่วนหนึ่งของต้นทุนการเทรด

3. ข้อดีของ Swing Trading

  • การจัดสรรเวลาที่ยืดหยุ่นกว่า :  เมื่อเทียบกับ Day Trading หรือ การซื้อขายแบบ ที่ต้องเฝ้าตลาดตลอดเวลา Swing Trading ไม่ต้องใช้เวลาติดตามตลาดแบบเรียลไทม์มากนัก นักเทรดสามารถวิเคราะห์และตัดสินใจในช่วงเวลาที่กำหนดของวัน (เช่น หลังปิดตลาด) ซึ่งเหมาะกับผู้ที่มีงานประจำหรือภารกิจอื่นๆ
  • จับความผันผวนของราคาที่ใหญ่กว่า :  เป้าหมายของ Swing Trading คือการจับช่วงราคาที่ดำเนินต่อเนื่องหลายวัน ดังนั้นกำไรต่อการเทรดหนึ่งครั้งมักจะมากกว่า Day Trading
  • ความถี่การเทรดต่ำกว่า ต้นทุนอาจถูกกว่า :  เนื่องจากจำนวนการเทรดน้อยกว่า ค่า Spread และค่าคอมมิชชั่น (ถ้ามี) รวมอาจต่ำกว่าการเทรดความถี่สูง นอกจากนี้ความถี่ต่ำยังช่วยลดความเครียดและความเหนื่อยล้าทางจิตใจจากการตัดสินใจบ่อยๆ

4. ความท้าทายและความเสี่ยงของ Swing Trading

  • ความเสี่ยงข้ามคืนและสุดสัปดาห์ :  นี่คือความเสี่ยงหลักของ Swing Trading การถือสถานะข้ามคืนอาจเจอ “Gap” ราคาที่ไม่เอื้ออำนวย (ช่องว่างระหว่างราคาปิดวันก่อนกับราคาเปิดวันถัดไป) โดยเฉพาะหลังสุดสัปดาห์หรือเหตุการณ์ข่าวสำคัญ และยังต้องรับภาระค่าธรรมเนียม Swap
  • ต้องมีความอดทนและวินัยสูง :  การเทรดอาจต้องรอหลายวันหรือหลายสัปดาห์กว่าจะถึงเป้าหมายหรือโดน Stop-Loss นักเทรดต้องมีความอดทนถือสถานะ ทนต่อแรงกดดันจากการปรับฐานเล็กน้อยหรือการพักตัว และปฏิบัติตามแผนเทรดอย่างเคร่งครัด
  • อาจพลาดโอกาสเทรดระยะสั้น :  เนื่องจากเน้นจับช่วงคลื่นระยะกลาง นักเทรด Swing อาจไม่สนใจโอกาสเทรดระยะสั้นในวันเดียวกัน
  • Stop-Loss มักตั้งกว้าง :  เพื่อหลีกเลี่ยงการถูกสัญญาณตลาดแกว่งในวันปกติทำให้หลุดออกจากตลาด Stop-Loss ของ Swing Trading มักตั้งไว้ไกลกว่าปกติ ซึ่งหมายความว่าถ้าโดน Stop-Loss การขาดทุนต่อการเทรดหนึ่งครั้งอาจสูง (ดังนั้นต้องปรับ ล็อตการซื้อขาย ให้เหมาะสมเพื่อควบคุมความเสี่ยงให้อยู่ในระดับที่รับได้)

5. Swing Trading เหมาะกับมือใหม่หรือไม่?

ความเหมาะสมที่เป็นไปได้ :  สำหรับมือใหม่บางคน Swing Trading อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ดี เพราะ : 
  • ความต้องการเวลาน้อยกว่า
  • การวิเคราะห์บนกรอบเวลานานขึ้น (เช่น กราฟรายวัน) ทำให้แนวโน้มและรูปแบบชัดเจนกว่า และไม่ถูกรบกวนจากเสียงรบกวนของตลาดระยะสั้นมากนัก

ข้อกำหนดสำหรับมือใหม่ : 
  • ต้องมีความอดทนและวินัยสูง สามารถยึดมั่นในแผนเทรดที่กินเวลาหลายวัน
  • ต้องเข้าใจและยอมรับความเสี่ยงข้ามคืน
  • ต้องมีทักษะพื้นฐานในการวิเคราะห์ทางเทคนิคบนกรอบเวลานาน
  • ต้องเรียนรู้วิธีคำนวณและบริหารขนาดสถานะ (ล็อต) ตาม Stop-Loss ที่กว้างขึ้นเพื่อควบคุมความเสี่ยง

คำแนะนำ :  หากคุณเป็นมือใหม่ที่มีความอดทน ,  มีวินัย ,  ไม่ต้องการความพึงพอใจทันที และพร้อมที่จะเรียนรู้การบริหารความเสี่ยงและการวิเคราะห์กราฟรายวัน Swing Trading อาจเหมาะกับคุณ
แต่ควรฝึกฝนและทดลองใน บัญชีทดลอง อย่างเพียงพอ เพื่อสัมผัสจังหวะและความต้องการทางจิตใจ และประเมินว่าคุณเหมาะกับสไตล์นี้จริงหรือไม่
โดยรวมแล้ว Swing Trading มักถูกมองว่าง่ายกว่าการซื้อขายแบบ การซื้อขายแบบ ในการเริ่มต้น

สรุป

Swing Trading คือสไตล์การเทรดที่พยายามจับความผันผวนของราคาตลาด Forex ในระยะกลาง (หลายวันถึงหลายสัปดาห์)
โดยเน้นการวิเคราะห์ทางเทคนิคบนกรอบเวลานาน เช่น กราฟรายวัน และกราฟ 4 ชั่วโมง พร้อมกับพิจารณาปัจจัยพื้นฐานประกอบ

ข้อดีของสไตล์นี้คือการจัดสรรเวลาที่ยืดหยุ่น และมีโอกาสจับกำไรจากช่วงราคาที่ใหญ่กว่า แต่ความท้าทายคือความเสี่ยงข้ามคืน ต้องมีความอดทนและวินัยสูง และต้องตั้ง Stop-Loss ที่กว้างและบริหารจัดการอย่างเหมาะสม
สำหรับมือใหม่ ความเหมาะสมขึ้นอยู่กับบุคลิกภาพ เงื่อนไขเวลาของแต่ละคน และความใส่ใจในการบริหารความเสี่ยง
Swing Trading จึงเป็นตัวเลือกที่อยู่ระหว่างการเทรดระยะสั้นสุดขีดและระยะยาวมาก
หากคุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ต่อคุณ ยินดีให้แชร์ให้เพื่อนๆ
ให้คนอื่นๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์ด้วยกัน!