กลยุทธ์การทะลุแนวรับแนวต้านในตลาด Forex เบื้องต้น: จับจุดเริ่มต้นของเทรนด์? ระวังการทะลุหลอก!
เมื่อคุณเริ่มเรียนรู้การวิเคราะห์ทางเทคนิค และเริ่มสังเกตราคาบนกราฟ คุณอาจสังเกตเห็นว่าราคาบางครั้งจะเคลื่อนไหวในช่วงแคบ ๆ เป็นเวลาหนึ่ง ก่อนที่จะพุ่งทะลุออกไปในทิศทางใดทิศทางหนึ่งอย่างรวดเร็วเหมือนหลุดจากพันธนาการพฤติกรรมที่ราคาทะลุผ่านแนวต้านหรือแนวรับสำคัญนี้ เรียกว่า “การทะลุแนวรับแนวต้าน” (Breakout)
และวิธีการเทรดที่พยายามเข้าตลาดในช่วงเวลาที่เกิดการทะลุนี้ เพื่อหวังจับโอกาสของการเคลื่อนไหวราคาที่แรงในช่วงถัดไป เรียกว่า “กลยุทธ์การทะลุแนวรับแนวต้าน” (Breakout Strategy)
กลยุทธ์การทะลุแนวรับแนวต้านได้รับความสนใจจากเทรดเดอร์เพราะอาจช่วยจับจุดเริ่มต้นหรือจุดเร่งของเทรนด์ได้
แต่ก็เต็มไปด้วยกับดักที่สำคัญที่สุดคือ “การทะลุหลอก” (False Breakout / Fakeout)
บทความนี้จะอธิบายแนวคิดพื้นฐานของกลยุทธ์การทะลุแนวรับแนวต้าน วิธีการทำงาน ความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุด และสิ่งที่มือใหม่ควรระวังเมื่อพิจารณาใช้กลยุทธ์นี้
1 การทะลุแนวรับแนวต้านคืออะไร? ราคาทะลุผ่านระดับสำคัญ
บนกราฟ Forex “การทะลุแนวรับแนวต้าน” (Breakout) หมายถึงราคาของคู่สกุลเงินที่เคลื่อนที่อย่างเด็ดขาด ทะลุผ่านระดับหรือโซนสำคัญที่ตลาดได้ทดสอบหลายครั้งและได้รับการยอมรับว่าเป็นระดับสำคัญระดับสำคัญนี้มักจะเป็น:
- แนวต้าน (Resistance): เมื่อราคาทะลุขึ้นผ่านแนวต้านที่เคยขัดขวางการขึ้นของราคา เรียกว่าการทะลุขึ้น (Breakout Up)
- แนวรับ (Support): เมื่อราคาทะลุลงผ่านแนวรับที่เคยช่วยหนุนราคาที่ลดลง เรียกว่าการทะลุลง (Breakout Down)
- ขอบเขตของรูปแบบการพักตัว (Consolidation Pattern Boundary): เช่น ราคาทะลุผ่านเส้นขอบของรูปแบบสามเหลี่ยม, สี่เหลี่ยม (กล่อง) หรือธง เป็นต้น


คุณสามารถจินตนาการได้ว่าราคาถูก “กักขัง” ไว้ในช่วงหนึ่ง และการทะลุหมายถึงราคาที่ “หลุดออกมา” อาจเริ่มต้นการเดินทางใหม่
การระบุแนวรับแนวต้านหรือรูปแบบที่มีความหมายจริง ๆ อย่างแม่นยำ คือพื้นฐานของการใช้กลยุทธ์การทะลุแนวรับแนวต้าน (ซึ่งต้องใช้ความรู้ด้านการวิเคราะห์ทางเทคนิคและพฤติกรรมราคา)
2 หลักการพื้นฐานของกลยุทธ์การทะลุแนวรับแนวต้าน: เดินตามเทรนด์
สมมติฐานพื้นฐานของ กลยุทธ์การทะลุแนวรับแนวต้าน คือ: เมื่อราคาสามารถทะลุผ่านอุปสรรคสำคัญได้อย่างแข็งแกร่ง มักหมายความว่าความสมดุลของแรงซื้อและแรงขายในตลาดเปลี่ยนแปลงอย่างมีนัยสำคัญ ราคามีแนวโน้มที่จะเคลื่อนที่ต่อไปในทิศทางที่ทะลุผ่าน อาจเริ่มต้นเทรนด์ใหม่ หรือดำเนินเทรนด์เดิมต่อไปดังนั้น แนวคิดหลักของกลยุทธ์นี้คือ “เดินตามเทรนด์”:
- เมื่อราคาทะลุขึ้นผ่านแนวต้าน: เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์นี้อาจเลือก ซื้อ (Buy) โดยคาดหวังว่าราคาจะขึ้นต่อ
- เมื่อราคาทะลุลงผ่านแนวรับ: เทรดเดอร์ที่ใช้กลยุทธ์นี้อาจเลือก ขาย (Sell) โดยคาดหวังว่าราคาจะลงต่อ
3 ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุด: การทะลุหลอกที่เกิดขึ้นได้ทุกที่ (False Breakout / Fakeout)
นี่คือปัญหาและความเสี่ยงที่ใหญ่ที่สุดที่เทรดเดอร์กลยุทธ์ทะลุแนวรับแนวต้านต้องเผชิญ
การทะลุหลอกคืออะไร? หมายถึงราคาดูเหมือนจะทะลุผ่านระดับสำคัญ ดึงดูดให้เทรดเดอร์เข้าตลาด แต่กลับไม่สามารถดำเนินต่อไปได้ กลับพลิกกลับอย่างรวดเร็วและกลับเข้าสู่ช่วงหรือระดับเดิม
เทรดเดอร์ที่เข้าตลาดในช่วงเวลาที่ทะลุจะประสบกับการขาดทุนทันที
ทำไมถึงเกิดการทะลุหลอก? มีหลายสาเหตุ เช่น: เงินทุนหลักของตลาดทดสอบระดับ, ขาดแรงตามหลังในช่วงทะลุ, การเคลื่อนไหวแบบ “สัญญาณรบกวน” ชั่วคราวก่อนหรือหลังข่าวสำคัญ, หรือแม้แต่การ “ล่าจุดตัดขาดทุน” ของเทรดเดอร์รายย่อย
ความเข้าใจที่สำคัญ: การทะลุหลอกเกิดขึ้นบ่อยมากในตลาด Forex!
นี่คือเหตุผลว่าทำไมกลยุทธ์ “ทะลุแล้วเข้าตลาดทันที” ที่ดูเหมือนง่ายในทางทฤษฎี กลับยากที่จะประสบความสำเร็จในทางปฏิบัติ และมีอัตราความสำเร็จต่ำ
มือใหม่มักจะถูกการทะลุหลอกหลอกลวงจนขาดทุนได้ง่าย
4 วิธีรับมือกับการทะลุหลอก? (แนวทางขั้นสูง, สรุป)
เทรดเดอร์ที่มีประสบการณ์มักจะไม่รีบเข้าตลาดทันทีที่ราคาทะลุระดับ พวกเขาจะใช้วิธีกรองสัญญาณ หรือรอการยืนยัน เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อถือของการทะลุ (แต่โปรดทราบว่า ไม่มีวิธีใดที่สามารถป้องกันการทะลุหลอกได้ 100%):- รอการปิดแท่งเทียน (K-line) เพื่อยืนยัน: ไม่เข้าตลาดทันทีที่ราคาทะลุหรือแตะระดับ แต่รอให้แท่งเทียนปัจจุบัน (เช่น แท่งเทียน 1 ชั่วโมง หรือ 4 ชั่วโมง) ปิด หากราคาปิดอยู่นอกระดับที่ทะลุจริง ๆ โอกาสที่การทะลุจะเป็นจริงจะสูงขึ้น
- (ถ้าใช้ได้) สังเกตปริมาณการซื้อขาย: ในบางตลาด (ข้อมูลปริมาณการซื้อขายในตลาด Forex ค่อนข้างไม่โปร่งใส จึงใช้วิธีนี้น้อย) หากการทะลุเกิดขึ้นพร้อมกับปริมาณการซื้อขายที่เพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ อาจแสดงถึงการมีส่วนร่วมของตลาดสูงและความตั้งใจทะลุที่แข็งแกร่ง
- รอราคาย้อนกลับทดสอบ (Retest): วิธีนี้ใช้บ่อยมาก หลังจากราคาทะลุ ไม่รีบเข้าตลาดทันที แต่รอให้ราคาย้อนกลับมาทดสอบระดับที่เพิ่งทะลุ (เช่น แนวต้านที่ทะลุขึ้นมา อาจกลายเป็นแนวรับใหม่) หากระดับนั้นยังคงแข็งแกร่งและราคามีสัญญาณเด้งกลับอีกครั้ง จึงพิจารณาเข้าตลาด วิธีนี้มีความมั่นคงมากขึ้น แต่ข้อเสียคืออาจพลาดโอกาสเมื่อราคาวิ่งแรงโดยไม่ย้อนกลับ
- ผสมผสานกับตัวชี้วัดทางเทคนิคอื่น ๆ: เช่น ต้องการให้ตัวชี้วัดโมเมนตัม (เช่น RSI) แสดงความแข็งแกร่งพร้อมกับการทะลุ หรือราคาทะลุผ่านเส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่สำคัญ เพื่อเป็นการยืนยันเพิ่มเติม
จุดสำคัญ: การรับมือกับการทะลุหลอกคือการบริหารความน่าจะเป็นและความเสี่ยง ไม่ใช่การตามหาสัญญาณที่ถูกต้องตลอดเวลา
5 การบริหารความเสี่ยงของกลยุทธ์การทะลุแนวรับแนวต้าน
เนื่องจากการทะลุหลอกมีอยู่มาก การบริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวดจึงสำคัญมากสำหรับกลยุทธ์นี้:- ต้องตั้งคำสั่งหยุดขาดทุน (Stop-Loss): นี่คือกฎเหล็ก! เมื่อยืนยันเข้าตลาดแล้ว ต้องตั้งคำสั่งหยุดขาดทุนทันที เพื่อป้องกันความเสียหายหากการทะลุล้มเหลว (กลายเป็นการทะลุหลอก)
- ตำแหน่งหยุดขาดทุนที่พบบ่อย: มักตั้งไว้ฝั่งตรงข้ามของระดับที่ทะลุ เช่น ซื้อเมื่อทะลุแนวต้านขึ้น หยุดขาดทุนจะอยู่ต่ำกว่าระดับแนวต้านนั้นในระยะหนึ่ง ขายเมื่อทะลุแนวรับลง หยุดขาดทุนจะอยู่สูงกว่าระดับแนวรับนั้นในระยะหนึ่ง
- ขนาดล็อตที่เหมาะสม (Position Sizing): คำนวณจากระยะห่างของจุดหยุดขาดทุนและจำนวนเงินที่คุณยอมรับความเสี่ยงในแต่ละเทรด (เช่น 1% ของเงินทุนทั้งหมดในบัญชี) เพื่อให้แน่ใจว่าถึงแม้โดนหยุดขาดทุนก็ยังอยู่ในแผนการบริหารความเสี่ยงของคุณ
6 กลยุทธ์การทะลุแนวรับแนวต้านเหมาะกับมือใหม่หรือไม่?
ความน่าสนใจ: แนวคิดการทะลุแนวรับแนวต้านค่อนข้างเข้าใจง่าย (ทะลุผ่านอุปสรรค) และแสดงถึงโอกาสจับเทรนด์ใหญ่ในช่วงต้น จึงดึงดูดมือใหม่ความท้าทายสำหรับมือใหม่:
- การระบุแนวรับ/แนวต้าน หรือรูปแบบกราฟที่มีความหมายจริง ๆ อย่างแม่นยำ ต้องใช้การฝึกฝนและประสบการณ์มาก
- การรับมือกับการทะลุหลอกที่เกิดขึ้นบ่อยครั้ง เป็นการทดสอบทั้งด้านจิตใจและเงินทุนอย่างหนัก
- ขึ้นอยู่กับวิธีการยืนยัน อาจต้องตัดสินใจเร็วหรือรออย่างอดทน ซึ่งต้องใช้ความมีวินัยในการปฏิบัติ
คำแนะนำ:
- มือใหม่ควรเรียนรู้การระบุจุดทะลุที่เป็นไปได้บนกราฟ เพราะนี่คือรูปแบบพฤติกรรมตลาดที่สำคัญ
- แต่ไม่แนะนำให้มือใหม่เริ่มต้นด้วยการเทรดทะลุแบบ “เปลือย” ที่ไม่มีการกรองหรือยืนยันใด ๆ เพราะกับดักการทะลุหลอกมีมาก
- มือใหม่อาจพบว่าการเรียนรู้การตามเทรนด์ที่เกิดขึ้นแล้ว (เช่น หาจังหวะในช่วงเทรนด์พักตัว) หรือการเทรดในช่วงกรอบราคาที่ชัดเจน อาจเป็นทางเลือกที่ง่ายกว่า
- ถ้าต้องการลองใช้กลยุทธ์ทะลุแนวรับแนวต้าน ควร: ฝึกฝนอย่างหนักใน บัญชีทดลอง ; เน้นการทะลุที่สอดคล้องกับเทรนด์หลัก (เช่น ในเทรนด์ขาขึ้น ให้สนใจเฉพาะการทะลุขึ้น) ; ใช้วิธียืนยันบางอย่าง (เช่น รอราคาปิดหรือรอการย้อนกลับทดสอบ) ; และที่สำคัญที่สุด คือ บริหารความเสี่ยงอย่างเข้มงวด
บทสรุป
กลยุทธ์การทะลุแนวรับแนวต้าน คือวิธีการเทรดที่พยายามเข้าตลาดเมื่อราคาทะลุผ่านระดับเทคนิคสำคัญ (แนวรับ, แนวต้าน หรือขอบเขตรูปแบบกราฟ) อย่างเด็ดขาด เพื่อจับโอกาสของเทรนด์ใหม่หรือเทรนด์ที่ดำเนินต่อไปกลยุทธ์นี้มีศักยภาพในการจับโอกาสเทรนด์ใหญ่ แต่ความท้าทายที่ใหญ่ที่สุดคือการจัดการกับ “การทะลุหลอก” ที่เกิดขึ้นบ่อย
สำหรับมือใหม่ การเข้าใจแนวคิดการทะลุแนวรับแนวต้านเป็นสิ่งสำคัญ แต่การเทรดทะลุโดยตรง (โดยเฉพาะแบบไม่มีการยืนยัน) อาจยากและเสี่ยงสูง
แนะนำให้มือใหม่ระมัดระวัง เรียนรู้วิธีตามเทรนด์หรือเทรดในกรอบราคาที่ง่ายกว่าเป็นอันดับแรก หากต้องการลองกลยุทธ์ทะลุแนวรับแนวต้าน ควรเพิ่มขั้นตอนการยืนยันและให้ความสำคัญกับการบริหารความเสี่ยงอย่างเคร่งครัด
หากคุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ต่อคุณ ยินดีให้แชร์ให้เพื่อนๆ
ให้คนอื่นๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์ด้วยกัน!
ให้คนอื่นๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์ด้วยกัน!