ฟอเร็กซ์ "ล็อตไซส์" (Lot Size) คืออะไร? ความเสี่ยงและปัจจัยสำคัญของกำไรขาดทุนที่มือใหม่ต้องเข้าใจ

มือใหม่ต้องรู้ Forex "Lot Size"! เข้าใจหน่วย, ค่า pip, และวิธีเลือก Lot Size เพื่อควบคุมความเสี่ยงในการเทรดและส่งผลต่อกำไรขาดทุน
  • เว็บไซต์นี้ใช้บริการแปลภาษาด้วย AI หากคุณมีคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะ โปรดติดต่อเรา เรารอคอยคำแนะนำอันมีค่าของคุณ! [email protected]
เว็บไซต์นี้ใช้บริการแปลภาษาด้วย AI หากคุณมีคำแนะนำหรือข้อเสนอแนะ โปรดติดต่อเรา เรารอคอยคำแนะนำอันมีค่าของคุณ! [email protected]

「Lot Size」ในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราต่างประเทศคืออะไร? ส่งผลต่อความเสี่ยงและกำไรขาดทุนของคุณอย่างไร

บทนำ
ระหว่างที่คุณเรียนรู้การเทรดฟอเร็กซ์ นอกจากจะต้องตัดสินใจว่าจะซื้อขายคู่สกุลเงินใด, เข้าออกที่ราคาไหนแล้ว ยังมีอีกหนึ่งการตัดสินใจที่สำคัญมาก: “คุณจะเทรดปริมาณเท่าไหร่?”
ปริมาณการเทรดนี้ ในตลาดฟอเร็กซ์จะใช้“Lot Size” เป็นหน่วยมาตรฐานในการวัด

การเลือกขนาดล็อตที่เหมาะสม มีผลโดยตรงต่อกำไรที่คุณอาจได้รับ และที่สำคัญกว่านั้น คือมีผลโดยตรงต่อความเสี่ยงที่คุณอาจเผชิญ
การเลือกขนาดล็อตผิดพลาด เป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้มือใหม่ขาดทุนอย่างรวดเร็ว
บทความนี้จะพาคุณเข้าใจอย่างง่ายและชัดเจนว่า Lot คืออะไร, หน่วยล็อตที่พบบ่อยมีอะไรบ้าง และมันส่งผลต่อผลลัพธ์การเทรดของคุณอย่างลึกซึ้งอย่างไร

1. “ล็อต” (Lot) คืออะไร? หน่วยมาตรฐานของปริมาณการเทรด

พูดง่ายๆ “ล็อต” คือหน่วยมาตรฐานที่ใช้วัดขนาดหรือจำนวนสัญญาของการเทรดฟอเร็กซ์แต่ละครั้ง
เมื่อคุณส่งคำสั่งซื้อขายคู่สกุลเงิน คุณจะไม่ได้พูดว่าซื้อขายกี่ “บาท” หรือกี่ “เงิน” แต่จะพูดว่าซื้อขายกี่ “ล็อต”

หนึ่งล็อตหมายถึงจำนวนสกุลเงินหลัก (สกุลเงินตัวแรกในคู่เงิน) ที่กำหนดไว้

2. หน่วยล็อตที่พบบ่อย

แม้ว่าแพลตฟอร์มเทรดจะอนุญาตให้คุณใส่ตัวเลขที่ละเอียดกว่าได้ แต่ในตลาดฟอเร็กซ์ หน่วยล็อตที่พบบ่อยและควรรู้จักมี 3 ประเภทหลัก:

  • ล็อตมาตรฐาน (Standard Lot):
    หมายถึง 100,000 หน่วย ของสกุลเงินหลัก
    เช่น เทรด 1 ล็อตมาตรฐาน ของ EUR/USD หมายถึงคุณซื้อขาย 100,000 ยูโร
    เป็นหน่วยที่สถาบันการเงินนิยมใช้ แต่สำหรับเทรดเดอร์รายย่อยถือว่าขนาดค่อนข้างใหญ่
  • มินิล็อต (Mini Lot):
    หมายถึง 10,000 หน่วย ของสกุลเงินหลัก
    เทียบเท่า 1 ใน 10 ของล็อตมาตรฐาน (1/10)
    เทรด 1 มินิล็อต ของ EUR/USD หมายถึงซื้อขาย 10,000 ยูโร
  • ไมโครล็อต (Micro Lot):
    หมายถึง 1,000 หน่วย ของสกุลเงินหลัก
    เทียบเท่า 1 ใน 100 ของล็อตมาตรฐาน (1/100) หรือ 1 ใน 10 ของมินิล็อต (1/10)
    เทรด 1 ไมโครล็อต ของ EUR/USD หมายถึงซื้อขาย 1,000 ยูโร

(หมายเหตุ: โบรกเกอร์บางรายอาจมี“นาโนล็อต (Nano Lot)” ซึ่งหมายถึง 100 หน่วย แต่ ไมโครล็อต เป็นหน่วยมาตรฐานที่เล็กที่สุดที่พบบ่อยในตลาดรายย่อย)

3. ขนาดล็อตกำหนด “ค่า pip” อย่างไร? (สำคัญมาก!)

นี่คือความสัมพันธ์สำคัญที่ต้องจำ: ขนาดล็อตที่คุณเลือกเทรด จะเป็นตัวกำหนดโดยตรงว่าอัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหว 1 จุด (Pip) จะส่งผลต่อกำไรขาดทุนในบัญชีของคุณเท่าไหร่ (หรือก็คือค่า pip)
แม้ค่า pip ที่แท้จริงจะขึ้นกับสกุลเงินที่ใช้ในการอ้างอิง แต่เราสามารถจำค่าประมาณที่พบบ่อย (คิดเป็นดอลลาร์สหรัฐ) เพื่อเข้าใจความแตกต่างที่สำคัญนี้:

  • เทรด 1 ล็อตมาตรฐาน (100,000 หน่วย) อัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหว 1 pip กำไรขาดทุนประมาณ 10 ดอลลาร์
  • เทรด 1 มินิล็อต (10,000 หน่วย) อัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหว 1 pip กำไรขาดทุนประมาณ 1 ดอลลาร์
  • เทรด 1 ไมโครล็อต (1,000 หน่วย) อัตราแลกเปลี่ยนเคลื่อนไหว 1 pip กำไรขาดทุนประมาณ 0.10 ดอลลาร์ (หรือ 10 เซนต์)

แนวคิดหลัก: ยิ่งล็อตใหญ่ มูลค่าต่อ pip ยิ่งสูง
นั่นหมายความว่า โอกาสทำกำไรยิ่งมาก แต่ในขณะเดียวกัน ความเสี่ยงขาดทุนก็ขยายตามสัดส่วน!

4. ล็อตกับการบริหารความเสี่ยง: ควบคุมการเปิดรับความเสี่ยงของคุณ

เมื่อเข้าใจความสัมพันธ์ระหว่างล็อตกับค่า pip แล้ว จะเห็นได้ชัดว่าการเลือกล็อตที่เหมาะสมคือหัวใจของการบริหารความเสี่ยง

หากคุณมีเงินในบัญชีไม่มาก แต่เลือกล็อตใหญ่เกินไป (เช่น เทรดล็อตมาตรฐานโดยตรง) แม้ตลาดจะเคลื่อนไหวสวนทางคุณเพียงไม่กี่ pip จำนวนเงินขาดทุนก็อาจกินสัดส่วนใหญ่ของเงินในบัญชี ทำให้คุณเผชิญแรงกดดันมหาศาล หรืออาจโดนแจ้งเตือนมาร์จิ้น หรือโดนบังคับปิดสถานะ
ในทางกลับกัน หากเลือกล็อตเล็ก (เช่นไมโครล็อต) การเคลื่อนไหวของ pip เดียวกันจะกระทบเงินในบัญชีคุณน้อยลงมาก คุณจึงรับความผันผวนได้มากขึ้น และมีโอกาสอยู่รอดในตลาดเพื่อเรียนรู้จากความผิดพลาด

เทรดเดอร์มืออาชีพจะใช้วิธี“การบริหารตำแหน่ง” หรือ“การคำนวณขนาดสถานะ” โดยอิงจากยอดเงินในบัญชี, สัดส่วนความเสี่ยงที่ยอมรับได้ต่อการเทรดแต่ละครั้ง (เช่น 1% หรือ 2% ของบัญชี) และระยะห่างของจุดตัดขาดทุน เพื่อคำนวณล็อตที่เหมาะสมอย่างแม่นยำ
สำหรับมือใหม่ หลักการง่ายที่สุดคือ: เริ่มจากล็อตเล็ก

5. มือใหม่ควรใช้ล็อตแบบไหน?

ด้วยเหตุผลด้านการควบคุมความเสี่ยง เราขอแนะนำอย่างยิ่งให้มือใหม่เริ่มฝึกเทรดด้วยล็อตที่เล็กที่สุด คือ“ไมโครล็อต” (Micro Lot)
หากคุณมีเงินทุนเริ่มต้นมากพอ และเข้าใจความเสี่ยงดีแล้ว อาจพิจารณาใช้“มินิล็อต” (Mini Lot)

ทำไมต้องเริ่มจากไมโครล็อต?
  • เรียนรู้ด้วยความเสี่ยงต่ำ: กำไรขาดทุนต่อ pip ประมาณ 0.1 ดอลลาร์ แม้จะผิดพลาดก็ขาดทุนไม่มาก ไม่กระทบเงินต้นอย่างรุนแรง
  • ความกดดันทางจิตใจน้อย: ความผันผวนของกำไรขาดทุนที่น้อยทำให้คุณควบคุมอารมณ์ได้ง่ายกว่า มีสมาธิกับการเรียนรู้กลยุทธ์และวิเคราะห์ตลาด ไม่ถูกครอบงำด้วยความกลัวหรือโลภ
  • ปรับตัวทีละขั้น: เมื่อคุณคุ้นเคยกับกระบวนการเทรดและควบคุมความเสี่ยงได้ดีแล้ว ค่อยพิจารณาเพิ่มขนาดล็อตตามการเติบโตของเงินทุน

ควรหลีกเลี่ยงอย่างเด็ดขาดที่จะใช้“ล็อตมาตรฐาน” ในช่วงเริ่มต้น โดยเฉพาะหากยังไม่เข้าใจตลาดและความเสี่ยงอย่างถ่องแท้

6. ตั้งค่าล็อตในแพลตฟอร์มเทรดอย่างไร?

เมื่อคุณส่งคำสั่งในซอฟต์แวร์เทรด (เช่น MT4 หรือ MT5) จะมีช่อง“Volume” หรือ“Quantity”
คุณต้องกรอกจำนวนล็อตที่ต้องการเทรด:

  • ใส่ 1.0 หมายถึง 1 ล็อตมาตรฐาน
  • ใส่ 0.1 หรือ 0.10 หมายถึง 1 มินิล็อต
  • ใส่ 0.01 หมายถึง 1 ไมโครล็อต

(โปรดดูรายละเอียดวิธีกรอกในคู่มือของแพลตฟอร์มที่คุณใช้ แต่หลักการเหมือนกัน)

สรุป

“Lot Size” กำหนดขนาดการเทรดของคุณ เป็นหนึ่งในเครื่องมือที่สำคัญและตรงที่สุดในการควบคุมความเสี่ยงในฟอเร็กซ์
มันมีผลโดยตรงต่อมูลค่าต่อ pip และกำหนดขอบเขตของกำไรขาดทุนที่อาจเกิดขึ้น

สำหรับมือใหม่ การเข้าใจความแตกต่างของแต่ละหน่วยล็อต (ล็อตมาตรฐาน, มินิล็อต, ไมโครล็อต) และยึดหลักเริ่มจากไมโครล็อต คือก้าวสำคัญในการปกป้องตัวเองจากการขาดทุนหนักและเรียนรู้อย่างมั่นคง
อย่าลืมทดลองใช้ล็อตต่างๆ ในบัญชีทดลอง เพื่อสัมผัสผลกระทบต่อเงินในบัญชีด้วยตัวเอง และเตรียมความพร้อมสำหรับการเทรดจริง
หากคุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ต่อคุณ ยินดีให้แชร์ให้เพื่อนๆ
ให้คนอื่นๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์ด้วยกัน!