ช่วงการซื้อขายลอนดอนเป็นหนึ่งในช่วงการซื้อขายที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์
และยังเป็นช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายสูงที่สุดในโลกอีกด้วยเนื่องจากลอนดอนเป็นศูนย์กลางการเงินของยุโรป จึงมีบทบาทสำคัญในตลาดฟอเร็กซ์ ความคล่องตัวสูงและความผันผวนในช่วงการซื้อขายลอนดอนดึงดูดนักเทรดจำนวนมาก ทำให้เป็นตัวเลือกที่เหมาะสำหรับนักเทรดระยะสั้นและนักเทรดรายวัน การเข้าใจลักษณะของช่วงการซื้อขายลอนดอน, คู่สกุลเงินหลัก และกลยุทธ์ที่ดีที่สุด จะช่วยให้คุณคว้าโอกาสการซื้อขายที่ดีที่สุดในช่วงเวลานี้
1 เวลาทำการของช่วงการซื้อขายลอนดอน
ช่วงการซื้อขายลอนดอนเป็นหนึ่งในช่วงที่มีปริมาณการซื้อขายหนาแน่นที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์ โดยมีเวลาทำการดังนี้:- เวลาเปิด: 08: 00 GMT
- เวลาปิด: 17: 00 GMT
2 ลักษณะของช่วงการซื้อขายลอนดอน
ช่วงการซื้อขายลอนดอนเป็นศูนย์กลางของตลาดฟอเร็กซ์ทั่วโลก มีลักษณะเฉพาะที่ทำให้เป็นช่วงเวลายอดนิยมสำหรับนักเทรดระยะสั้นและนักเทรดรายวัน- สภาพคล่องสูง: ช่วงการซื้อขายลอนดอนมีสภาพคล่องที่สูงมาก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทับซ้อนกับตลาดหลักอื่น ๆ (เช่น ตลาดนิวยอร์ก) ในช่วงไม่กี่ชั่วโมงแรก ผู้เข้าร่วมตลาดจำนวนมากทำให้ตลาดมีสภาพคล่องเพียงพอ สเปรด แคบลง และต้นทุนการซื้อขายลดลง
- ความผันผวนสูง: เนื่องจากตลาดยุโรปและสหรัฐฯ มีความเคลื่อนไหวพร้อมกัน ช่วงลอนดอนมักมาพร้อมกับการเคลื่อนไหวของราคาที่มากขึ้น ซึ่งหมายถึงโอกาสในการทำกำไรที่เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะสำหรับนักเทรดระยะสั้น
- การทะลุแนวต้านหรือแนวรับ: ช่วงลอนดอนมักเป็นช่วงที่ตลาดเริ่มต้นการเคลื่อนไหว ราคามักจะทะลุแนวต้านหรือแนวรับตามผลการดำเนินงานของตลาดเอเชีย ซึ่งมอบโอกาสการซื้อขายในช่วงเช้าให้กับนักเทรด
- การทับซ้อนกับช่วงนิวยอร์ก: ช่วงการซื้อขายลอนดอนและนิวยอร์กมีเวลาทับซ้อนกันประมาณ 4 ชั่วโมง (13: 00 GMT ถึง 17: 00 GMT) ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่ตลาดฟอเร็กซ์ทั่วโลกมีความเคลื่อนไหวมากที่สุด ปริมาณการซื้อขายและความผันผวนถึงจุดสูงสุด มอบเงื่อนไขการซื้อขายที่ดีที่สุดให้กับนักเทรด
3 คู่สกุลเงินหลัก
เนื่องจากลอนดอนเป็นศูนย์กลางของตลาดฟอเร็กซ์ทั่วโลก ในช่วงเวลานี้ คู่สกุลเงินหลัก เกือบทั้งหมดจะมีปริมาณการซื้อขายจำนวนมาก แต่คู่สกุลเงินต่อไปนี้มีความเคลื่อนไหวมากเป็นพิเศษในช่วงลอนดอน:- EUR / USD: ในฐานะหนึ่งในคู่สกุลเงินที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโลก EUR / USD มีปริมาณการซื้อขายสูงมากในช่วงลอนดอน โดยเฉพาะในช่วงที่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหรือการเปลี่ยนแปลงนโยบาย ความผันผวนของคู่สกุลเงินนี้จะสูงเป็นพิเศษ
- GBP / USD: ลอนดอนในฐานะศูนย์กลางการซื้อขายของเงินปอนด์ GBP / USD มีความเคลื่อนไหวในการซื้อขายสูงมากในช่วงเวลานี้ คู่สกุลเงินนี้มีความผันผวนสูงในช่วงลอนดอน เหมาะสำหรับนักเทรดที่มีประสบการณ์ในการซื้อขายระยะสั้นหรือรายวัน
- EUR / GBP: เนื่องจากคู่สกุลเงินนี้เกี่ยวข้องกับยูโรโซนและสหราชอาณาจักร และทั้งสองมีศูนย์กลางการเงินหลักในช่วงลอนดอน EUR / GBP จึงเป็นหนึ่งในคู่สกุลเงินที่มีความผันผวนสูงในช่วงเวลานี้
- USD / CHF: สวิตเซอร์แลนด์ในฐานะหนึ่งในศูนย์กลางการเงินที่สำคัญของยุโรป USD / CHF มีปริมาณการซื้อขายสูงในช่วงลอนดอน โดยเฉพาะเมื่อได้รับผลกระทบจากข้อมูลเศรษฐกิจยุโรป ความผันผวนจะเพิ่มขึ้นอย่างชัดเจน
4 กลยุทธ์ที่ดีที่สุดสำหรับช่วงการซื้อขายลอนดอน
เนื่องจากช่วงลอนดอนมีสภาพคล่องและความผันผวนสูง นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันตามลักษณะเหล่านี้เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการซื้อขาย:- การเทรดตามแนวโน้ม: ช่วงการซื้อขายลอนดอนมักจะเห็นการทะลุของราคาตลาด โดยเฉพาะเมื่อเปรียบเทียบกับแนวโน้มของตลาดเอเชีย นักเทรดสามารถใช้การทะลุนี้เพื่อเทรดตามแนวโน้มของราคา โดยเฉพาะในช่วงที่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญหรือข่าวสาร
- กลยุทธ์การทะลุแนวต้านหรือแนวรับ: เนื่องจากความผันผวนสูงในช่วงลอนดอน ราคามักจะทะลุออกจากกรอบ นักเทรดสามารถรอให้ราคาทะลุแนวต้านหรือแนวรับ และเข้าสู่ตลาดตามแนวโน้ม
- การเทรดรายวัน: สภาพคล่องและความผันผวนสูงในช่วงลอนดอนเหมาะสำหรับนักเทรดรายวัน นักเทรดสามารถทำการซื้อขายระยะสั้นหลายครั้งในช่วงเวลานี้เพื่อทำกำไรจากการเคลื่อนไหวของราคา
- การเทรดแบบอัตราดอกเบี้ย: เนื่องจากในช่วงลอนดอน คู่สกุลเงินหลัก ส่วนใหญ่มีสภาพคล่องสูง นักเทรดแบบอัตราดอกเบี้ยสามารถใช้ช่วงเวลานี้ในการซื้อขายตามความแตกต่างของอัตราดอกเบี้ย
5 ข้อดีและความท้าทายของช่วงการซื้อขายลอนดอน
ข้อดี:- สภาพคล่องสูงช่วยให้นักเทรดสามารถเข้าสู่ตลาดและออกจากตลาดได้อย่างรวดเร็ว พร้อมทั้งเพลิดเพลินกับ สเปรด ที่แคบลง ลดต้นทุนการซื้อขาย
- ปริมาณการซื้อขายสูงและความผันผวนที่มาก มอบโอกาสในการทำกำไรที่ดีสำหรับนักเทรดระยะสั้นและรายวัน
- การทับซ้อนกับช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก เพิ่มความเคลื่อนไหวของตลาดและโอกาสในการซื้อขาย
- ความผันผวนที่มากเกินไปอาจทำให้ราคามีการเคลื่อนไหวอย่างรุนแรง ซึ่งเป็นความท้าทายสำหรับนักเทรดมือใหม่ที่อาจสับสนกับการเปลี่ยนแปลงของตลาดอย่างรวดเร็ว
- เนื่องจากสภาพคล่องสูง อาจเกิดการทะลุแนวต้านหรือแนวรับที่ผิดพลาดในช่วงลอนดอน ทำให้นักเทรดตัดสินใจซื้อขายผิดพลาด