อะไรคือ มาร์จิ้น ระดับ?
มาร์จิ้น ระดับ (Margin Level) เป็นตัวชี้วัดที่สำคัญในการวัดสถานะทางการเงินของบัญชีในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา มันสะท้อนถึงมูลค่าสุทธิของคุณ (Equity) เปรียบเทียบกับ มาร์จิ้น ที่ใช้ (Used Margin) ในรูปแบบเปอร์เซ็นต์ มาร์จิ้น ระดับช่วยให้คุณเข้าใจว่ามีเงินทุนที่สามารถใช้ในการเปิดตำแหน่งใหม่ได้มากน้อยเพียงใด และช่วยประเมินว่ามีเงินทุนเพียงพอในการรักษาตำแหน่งการซื้อขายที่มีอยู่หรือไม่สูตรการคำนวณ มาร์จิ้น ระดับ:
- มาร์จิ้น ระดับ = (มูลค่าสุทธิ / มาร์จิ้น ที่ใช้) x 100%
ตัวอย่าง:
- สมมติว่ามูลค่าสุทธิของคุณคือ 5,000 ดอลลาร์ และ มาร์จิ้น ที่ใช้คือ 1,000 ดอลลาร์ ดังนั้น มาร์จิ้น ระดับของคุณคือ:
- มาร์จิ้น ระดับ = (5,000 / 1,000) x 100% = 500%
นี่หมายความว่าคุณมี มาร์จิ้น ที่ว่างเพียงพอในการเปิดตำแหน่งใหม่
วิธีการทำงานของ มาร์จิ้น ระดับ:
- มาร์จิ้น ระดับสูง:
เมื่อ มาร์จิ้น ระดับของคุณสูงกว่า 100% หมายความว่าคุณมี มาร์จิ้น ที่ว่างมากขึ้นในการเปิดการซื้อขายใหม่ บัญชีประเภทนี้มักมีเงินทุนเพียงพอที่จะรองรับความผันผวนของตลาด - มาร์จิ้น ระดับต่ำ:
เมื่อ มาร์จิ้น ระดับลดลงใกล้ 100% หมายความว่ามูลค่าสุทธิของคุณเท่ากับ มาร์จิ้น ที่ใช้ คุณจะไม่สามารถเปิดตำแหน่งใหม่ได้ หาก มาร์จิ้น ระดับยังคงลดลง อาจทำให้เกิดการแจ้งเตือน มาร์จิ้น เพิ่มเติมหรือความเสี่ยงในการปิดบัญชีโดยบังคับ
ผลกระทบของ มาร์จิ้น ระดับ:
- การแจ้งเตือน มาร์จิ้น เพิ่มเติม (Margin Call):
เมื่อ มาร์จิ้น ระดับลดลงถึง 100% หรือต่ำกว่า โบรกเกอร์อาจขอให้คุณเพิ่มเงินทุนหรือปิดตำแหน่งบางส่วนเพื่อให้แน่ใจว่าคุณสามารถรักษาการซื้อขายที่มีอยู่ได้ - การปิดบัญชีโดยบังคับ (Stop Out):
หาก มาร์จิ้น ระดับลดลงต่อไปและกระตุ้นเส้นการปิดการซื้อขาย (มักต่ำกว่า 100% ขึ้นอยู่กับข้อกำหนดของโบรกเกอร์) โบรกเกอร์จะทำการปิดบัญชีโดยอัตโนมัติเพื่อป้องกันการขาดทุนเพิ่มเติมในบัญชี