แพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์เบื้องต้น: ทำความรู้จักกับ MetaTrader 4 (MT4) ที่ได้รับความนิยมสูงสุด
เมื่อคุณต้องการซื้อขายฟอเร็กซ์ออนไลน์ คุณจำเป็นต้องมีเครื่องมือซอฟต์แวร์เพื่อเชื่อมต่อกับตลาด , ดูราคา , วิเคราะห์กราฟ และดำเนินการเทรดซอฟต์แวร์นี้เรียกว่า "แพลตฟอร์มการเทรด"
ในตลาดมีแพลตฟอร์มการเทรดหลายแบบ แต่มีชื่อหนึ่งที่คุณแทบจะต้องเคยได้ยิน นั่นคือ MetaTrader 4 (MT4)
MT4 เป็นหนึ่งในแพลตฟอร์มการเทรดที่ได้รับความนิยมและใช้งานอย่างแพร่หลายที่สุดทั่วโลก โดยเฉพาะในกลุ่มเทรดเดอร์รายย่อยฟอเร็กซ์
มันเปรียบเสมือน "ห้องนักบิน" ของเทรดเดอร์ ที่ให้ฟังก์ชันหลักสำหรับการสังเกตตลาด , วิเคราะห์ราคา , และส่งคำสั่งเทรด
สำหรับมือใหม่ การเข้าใจว่า MT4 คืออะไร มีฟังก์ชันพื้นฐานอะไรบ้าง และทำไมมันถึงได้รับความนิยม เป็นการเตรียมตัวที่สำคัญก่อนเริ่มเทรดจริง
บทความนี้จะนำเสนอภาพรวมง่ายๆ ของแพลตฟอร์ม MT4 ให้คุณ
1 MetaTrader 4 (MT4) คืออะไร? สะพานเชื่อมคุณกับตลาด
MetaTrader 4 (MT4) เป็นซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มการเทรดอิเล็กทรอนิกส์ที่พัฒนาโดยบริษัท MetaQuotes Software Corp.มันไม่ใช่โบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ แต่ทำหน้าที่เป็นอินเทอร์เฟซกลางที่ช่วยให้คุณ (เทรดเดอร์) เชื่อมต่อกับเซิร์ฟเวอร์ของโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่คุณเลือก เพื่อรับราคาตลาดแบบเรียลไทม์ , วิเคราะห์กราฟ และส่งคำสั่งซื้อขาย
จุดสำคัญ: คุณต้องเลือกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ที่ให้บริการแพลตฟอร์ม MT4 และเปิดบัญชีเทรดกับโบรกเกอร์นั้น (บัญชีทดลองหรือบัญชีจริง)
จากนั้นดาวน์โหลดเวอร์ชัน MT4 ที่โบรกเกอร์นั้นจัดเตรียมไว้จากเว็บไซต์อย่างเป็นทางการ และเข้าสู่ระบบด้วยข้อมูลบัญชีของคุณ
คุณไม่สามารถดาวน์โหลด MT4 เวอร์ชันทั่วไปแล้วเชื่อมต่อกับโบรกเกอร์ใดก็ได้
เปรียบเทียบง่ายๆ: คิดว่า MT4 เหมือนเว็บเบราว์เซอร์ยอดนิยม (เช่น Chrome)
เบราว์เซอร์ช่วยให้คุณเข้าถึงเว็บไซต์ต่างๆ แต่คุณยังต้องมีผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) เพื่อเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ต
เช่นเดียวกัน MT4 ช่วยให้คุณเข้าถึงตลาดฟอเร็กซ์ แต่คุณยังต้องมีโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์เพื่อให้บริการเทรดและบัญชีของคุณ
2 ทำไม MT4 ถึงได้รับความนิยม?
แม้ MT4 จะเปิดตัวมานานแล้ว แต่ยังคงได้รับความนิยมสูง เหตุผลหลักได้แก่:- การสนับสนุนจากโบรกเกอร์อย่างกว้างขวาง: มีโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์นับร้อยถึงพันรายทั่วโลกที่เลือกให้บริการ MT4 แก่ลูกค้า ซึ่งหมายความว่าเทรดเดอร์มีความยืดหยุ่นสูงในการเลือกโบรกเกอร์
- อินเทอร์เฟซที่เป็นมิตรกับผู้ใช้: สำหรับแพลตฟอร์มที่มีฟังก์ชันครบ MT4 มีการจัดวางและตรรกะการใช้งานที่ค่อนข้างเข้าใจง่าย มือใหม่จึงเรียนรู้ฟังก์ชันหลักได้ไม่ยาก
- ฟังก์ชันวิเคราะห์กราฟที่ทรงพลัง: MT4 มีเครื่องมือกราฟที่ยืดหยุ่นและทรงพลัง รวมถึงกราฟหลายประเภท (กราฟแท่งเทียน , กราฟแท่ง , กราฟเส้น) , ตัวเลือกช่วงเวลาหลายระดับ , ฟังก์ชันซูม และมีตัวชี้วัดทางเทคนิคยอดนิยมจำนวนมาก (เช่น เส้นค่าเฉลี่ยเคลื่อนที่ , RSI , MACD , Bollinger Bands , Fibonacci ฯลฯ) รวมถึงเครื่องมือวาดเส้น (เช่น เส้นแนวโน้ม , เส้นแนวรับแนวต้าน)
- รองรับการเทรดอัตโนมัติ (EA): MT4 มีชื่อเสียงในเรื่องฟังก์ชัน "ระบบการซื้อขายอัจฉริยะ" (Expert Advisors, EAs) ซึ่งเป็นโปรแกรมที่สามารถดำเนินการเทรดโดยอัตโนมัติตามกลยุทธ์ที่ตั้งไว้ นี่คือฟังก์ชันขั้นสูงของ MT4
- คลังทรัพยากรปรับแต่งขนาดใหญ่: เนื่องจากมีผู้ใช้จำนวนมาก จึงมีตัวชี้วัดทางเทคนิค , สคริปต์ และ EA ที่พัฒนาโดยผู้ใช้หรือบุคคลที่สามจำนวนมากบนอินเทอร์เน็ต ที่สามารถเพิ่มเข้าไปใน MT4 ได้
- ความเสถียรและความน่าเชื่อถือที่ได้รับการยอมรับ: ผ่านการทดสอบในตลาดหลายปี MT4 ได้รับการยอมรับว่าเป็นแพลตฟอร์มที่มีความเสถียรและเชื่อถือได้สูง
3 ฟังก์ชันหลักของ MT4 (มุมมองมือใหม่)
สำหรับมือใหม่ คุณควรทำความเข้าใจฟังก์ชันหลักของ MT4 ในส่วนต่างๆ ดังนี้:- หน้าต่าง Market Watch: แสดงราคาซื้อ (Ask) และราคาขาย (Bid) แบบเรียลไทม์ของสินทรัพย์ต่างๆ ที่โบรกเกอร์ของคุณให้บริการ เช่น คู่สกุลเงิน , ทองคำ , ดัชนี เป็นต้น
- หน้าต่าง Chart: เป็นพื้นที่หลักสำหรับการวิเคราะห์ทางเทคนิค คุณสามารถเปิดกราฟของสินทรัพย์ต่างๆ ในช่วงเวลาที่แตกต่างกัน ซูมดูรายละเอียด และเพิ่มตัวชี้วัดทางเทคนิคหรือเครื่องมือวาดเส้นได้
- หน้าต่าง Navigator: ใช้จัดการบัญชีเทรดของคุณ (ล็อกอิน , สลับบัญชี) และเข้าถึงตัวชี้วัด , EA และสคริปต์ที่ติดตั้งไว้ได้อย่างรวดเร็ว
- หน้าต่าง Terminal: หน้าต่างนี้สำคัญมาก มักอยู่ด้านล่างของแพลตฟอร์ม มีแท็บหลายแท็บ:
- แท็บ "Trade": แสดงสถานะการถือครองปัจจุบัน (คำสั่งที่เปิดอยู่) , ยอดเงินในบัญชี (Balance) , มูลค่ารวม (Equity) , มาร์จิ้นที่ใช้ (Margin) , มาร์จิ้นที่ว่าง (Free Margin) และระดับมาร์จิ้น (Margin Level) ข้อมูลสำคัญของบัญชี คุณสามารถจัดการคำสั่งเปิด (แก้ไขหรือปิด) ได้ที่นี่
- แท็บ "Account History": บันทึกประวัติการเทรดที่ปิดไปแล้ว รวมถึงกำไรขาดทุน , ค่าคอมมิชชั่น , ค่าธรรมเนียมถือครอง
- แท็บอื่นๆ อาจรวมถึง ข่าวสาร , การแจ้งเตือน , อีเมล , บันทึกเหตุการณ์ ฯลฯ
- ฟังก์ชันการส่งคำสั่งและจัดการคำสั่ง: MT4 มีอินเทอร์เฟซที่สะดวกสำหรับการส่งคำสั่ง ได้แก่:
- คำสั่งตลาด (Market Execution): ซื้อหรือขายทันทีที่ราคาที่ดีที่สุดในตลาดปัจจุบัน
- คำสั่งรอดำเนินการ (Pending Order): ตั้งคำสั่งซื้อหรือขายที่จะถูกเปิดใช้งานเมื่อราคาถึงระดับที่กำหนดในอนาคต (เช่น คำสั่งจำกัด , คำสั่งหยุดขาดทุน)
- ตั้งค่า Stop Loss และ Take Profit: ตั้งราคาหยุดขาดทุนและทำกำไรเมื่อส่งคำสั่งหรือหลังจากนั้น ซึ่งเป็นขั้นตอนสำคัญของการบริหารความเสี่ยง


4 MT4 ฟรีหรือไม่? จะรับได้อย่างไร?
- ซอฟต์แวร์แพลตฟอร์มโดยทั่วไปฟรี: สำหรับเทรดเดอร์ MT4 มักจะถูกโบรกเกอร์ฟอเร็กซ์ให้ใช้ฟรี ไม่ว่าจะเป็นบัญชีทดลองหรือบัญชีจริง
- ต้นทุนการเทรดยังคงมีอยู่: แต่โปรดจำไว้ว่า การใช้แพลตฟอร์มฟรีไม่ได้หมายความว่าการเทรดไม่มีค่าใช้จ่าย คุณยังต้องจ่ายสเปรด , ค่าคอมมิชชั่น หรือค่าธรรมเนียมถือครองที่โบรกเกอร์เรียกเก็บ
- วิธีรับ: คุณต้องเลือกโบรกเกอร์ที่ให้บริการ MT4 และสมัครเปิดบัญชีผ่านเว็บไซต์ของพวกเขา (โดยปกติสามารถเปิดบัญชีทดลองได้ก่อน) จากนั้นดาวน์โหลดโปรแกรมติดตั้ง MT4 ที่โบรกเกอร์จัดเตรียมไว้ ติดตั้งและเข้าสู่ระบบด้วยหมายเลขบัญชีและรหัสผ่านของคุณ
5 MT4 vs MT5 และแพลตฟอร์มอื่นๆ
คุณอาจเคยได้ยิน MetaTrader 5 (MT5)MT5 เป็นเวอร์ชันอัปเดตของ MT4 จากบริษัทเดียวกัน มีตัวเลือกช่วงเวลาที่มากขึ้น , ตัวชี้วัดในตัวมากขึ้น , ภาษาโปรแกรมที่ปรับปรุง และนอกจากฟอเร็กซ์แล้วยังรองรับการเทรดหุ้น , ฟิวเจอร์ส และสินทรัพย์อื่นๆ ได้ดียิ่งขึ้น (ขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ว่าจะให้บริการหรือไม่)
นอกจากนี้ โบรกเกอร์ใหญ่บางรายยังพัฒนาแพลตฟอร์มเฉพาะของตนเอง (Proprietary Platform) ที่อาจมีอินเทอร์เฟซและฟังก์ชันเฉพาะตัว
ทำไม MT4 ยังเป็นกระแสหลัก?
แม้ MT5 จะเปิดตัวมาหลายปีแล้ว แต่ MT4 ยังคงเป็นแพลตฟอร์มฟอเร็กซ์รายย่อยที่ได้รับความนิยมสูงสุดในโลก ด้วยฐานผู้ใช้ขนาดใหญ่ , ทรัพยากรจากบุคคลที่สามจำนวนมาก (EA , ตัวชี้วัด) และการสนับสนุนจากโบรกเกอร์หลายราย
สำหรับมือใหม่ การเรียนรู้การใช้งาน MT4 พื้นฐานก็เพียงพอสำหรับการเริ่มต้น และอินเทอร์เฟซอาจดูเรียบง่ายกว่า
6 คำแนะนำสำหรับมือใหม่
- เริ่มต้นจากบัญชีทดลอง (บัญชีทดลอง) เท่านั้น!
นี่คือขั้นตอนที่สำคัญที่สุด ก่อนใช้เงินจริง คุณต้องเปิดบัญชีทดลองกับโบรกเกอร์ที่คุณเลือก และใช้เวลาฝึกฝนในสภาพแวดล้อมจำลองของ MT4 อย่างน้อยหลายสัปดาห์หรือหลายเดือน
คุณควรชำนาญ:- ฟังก์ชันและข้อมูลในแต่ละหน้าต่าง
- วิธีดูราคาคู่สกุลเงินและกราฟต่างๆ
- วิธีเพิ่มและลบตัวชี้วัดทางเทคนิคที่ใช้บ่อย
- วิธีส่งคำสั่งตลาดและคำสั่งรอดำเนินการอย่างถูกต้อง
- วิธีตั้งและแก้ไข Stop Loss และ Take Profit สำหรับคำสั่ง
- วิธีติดตามสถานะการถือครองและตัวชี้วัดสำคัญของบัญชี (Equity , ระดับมาร์จิ้น ฯลฯ)
- วิธีดูประวัติการเทรด
- เน้นการใช้งานพื้นฐาน: เรียนรู้การดูกราฟ , ส่งคำสั่ง , จัดการคำสั่ง และตั้ง Stop Loss/Take Profit ก่อน อย่าเพิ่งวอกแวกกับฟังก์ชันขั้นสูงของ MT4 เช่น การเทรดด้วย EA
- เลือกโบรกเกอร์ที่มีชื่อเสียงดี: MT4 เป็นเพียงเครื่องมือ ประสบการณ์การเทรดและความปลอดภัยของเงินทุนขึ้นอยู่กับโบรกเกอร์ที่คุณเลือกว่ามีความน่าเชื่อถือ , ถูกกฎหมาย และบริการดีหรือไม่
สรุป
MetaTrader 4 (MT4) เป็นแพลตฟอร์มการเทรดฟอเร็กซ์ที่ทรงพลัง , เสถียร และได้รับความนิยมอย่างกว้างขวางทั่วโลกมันมอบเครื่องมือหลักสำหรับเทรดเดอร์ในการดูตลาด , วิเคราะห์กราฟ , ส่งคำสั่งเทรด และจัดการบัญชี
สำหรับมือใหม่ MT4 เป็นแพลตฟอร์มที่ดีมากสำหรับเริ่มต้น เพราะมีทรัพยากรเยอะ , ใช้งานง่าย และได้รับการสนับสนุนจากโบรกเกอร์จำนวนมาก
แต่โปรดจำไว้ว่า วิธีที่ดีที่สุดในการเรียนรู้แพลตฟอร์มคือการเปิดบัญชีทดลองกับโบรกเกอร์ที่คุณเลือก และฝึกฝนอย่างเต็มที่ในระยะเวลานานจนคุณใช้ฟังก์ชันพื้นฐานได้อย่างคล่องแคล่ว
หากคุณคิดว่าบทความนี้มีประโยชน์ต่อคุณ ยินดีให้แชร์ให้เพื่อนๆ
ให้คนอื่นๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์ด้วยกัน!
ให้คนอื่นๆ ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเทรดฟอเร็กซ์ด้วยกัน!