ช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก: การวิเคราะห์คู่สกุลเงินที่ดีที่สุดและกลยุทธ์ความผันผวนสูง

ช่วงการซื้อขายนิวยอร์กเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในตลาดฟอเร็กซ์ โดยมีสภาพคล่องและความผันผวนสูง บทความนี้นำเสนอคุณสมบัติของช่วงเวลานิวยอร์ก, คู่สกุลเงินหลัก และกลยุทธ์ที่ดีที่สุด

นิวยอร์กช่วงการซื้อขายเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุดในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราทั่วโลก 

ในฐานะที่เป็นศูนย์กลางการเงินของอเมริกา ช่วงการซื้อขายนิวยอร์กดึงดูดนักเทรดจำนวนมาก โดยเฉพาะคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐซึ่งมีความผันผวนสูงในช่วงเวลานี้ 
การเข้าใจลักษณะของช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก, คู่สกุลเงินหลัก และกลยุทธ์การซื้อขายที่ดีที่สุด จะช่วยให้คุณสามารถจับโอกาสการซื้อขายได้มากขึ้นในช่วงเวลานี้

1 เวลาเปิดตลาดของช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก 

ช่วงการซื้อขายนิวยอร์กเป็นช่วงเวลาของตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราในอเมริกา ซึ่งมีการทับซ้อนกับช่วงการซื้อขายลอนดอนเป็นเวลาหลายชั่วโมง เวลาที่แน่นอนคือ: 
  • เวลาเปิดตลาด: 13: 00 GMT
  • เวลาปิดตลาด: 22: 00 GMT
ช่วงเวลานี้ครอบคลุมกิจกรรมทางเศรษฐกิจหลักส่วนใหญ่ของโลก โดยเฉพาะความผันผวนในตลาดของประเทศอย่างสหรัฐอเมริกาและแคนาดา นิวยอร์กในฐานะศูนย์กลางการเงินของสหรัฐมีอิทธิพลอย่างมากต่อ ตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยเฉพาะคู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐ

2 ลักษณะของช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก 

ลักษณะของตลาดในช่วงการซื้อขายนิวยอร์กทำให้มันเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่มีความผันผวนและสภาพคล่องสูงที่สุดในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตราทั่วโลก ลักษณะหลักบางประการของช่วงเวลานี้ ได้แก่: 
  • การทับซ้อนกับช่วงลอนดอน: การทับซ้อนระหว่างช่วงการซื้อขายนิวยอร์กและลอนดอน (13: 00 GMT ถึง 17: 00 GMT) เป็นช่วงเวลาที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา ในช่วงเวลานี้ ผู้เข้าร่วมตลาดจากยุโรปและอเมริกาจะมีความเคลื่อนไหวพร้อมกัน ทำให้สภาพคล่องในตลาดสูงมากและความผันผวนเพิ่มขึ้น
  • ความผันผวนของตลาดสูง: เนื่องจากข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐและผลกระทบข้ามตลาดทั่วโลก ช่วงการซื้อขายนิวยอร์กมักจะมีความผันผวนของตลาดอย่างรุนแรง โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐ (NFP), CPI หรือบันทึกการประชุม FOMC ความผันผวนของตลาดจะเด่นชัดมากขึ้น
  • ดอลลาร์สหรัฐเป็นผู้นำตลาด: ในช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก คู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐมักจะมีความเคลื่อนไหวมากที่สุด นี่เป็นเพราะอิทธิพลทางเศรษฐกิจของสหรัฐและความสำคัญของดอลลาร์สหรัฐในตลาดการค้าทั่วโลก นักลงทุนจำนวนมากจะทำการซื้อขายคู่สกุลเงินดอลลาร์สหรัฐตามข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ

3 คู่สกุลเงินหลัก 

ในช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก คู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์สหรัฐเป็นคู่ที่มีความเคลื่อนไหวมากที่สุด ต่อไปนี้คือบางคู่สกุลเงินที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในช่วงเวลานี้: 
  • EUR / USD: ในฐานะที่เป็นคู่สกุลเงินที่มีปริมาณการซื้อขายสูงสุดในโลก EUR / USD มีความผันผวนสูงในช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก โดยเฉพาะในช่วงที่มีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ราคาของคู่สกุลเงินนี้มีการเปลี่ยนแปลงอย่างรุนแรง
  • GBP / USD: GBP / USD เป็นอีกหนึ่งคู่สกุลเงินที่มีความเคลื่อนไหวในช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก โดยเฉพาะเมื่อมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจของสหราชอาณาจักรและสหรัฐอย่างต่อเนื่อง ทำให้ตลาดมีความผันผวนสูง
  • USD /JPY: เนื่องจากการซื้อขายข้ามตลาดระหว่างดอลลาร์สหรัฐและเยนญี่ปุ่น USD /JPY จึงเป็นคู่สกุลเงินที่มีปริมาณการซื้อขายสูงในช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก คู่สกุลเงินนี้มักจะแสดงความผันผวนสูงเมื่อมีเหตุการณ์ทางการเงินทั่วโลกเกิดขึ้น
  • USD /CAD: เนื่องจากช่วงการซื้อขายนิวยอร์กครอบคลุมพื้นที่อเมริกาเหนือ USD /CAD จึงมีความเคลื่อนไหวสูงในช่วงเวลานี้ โดยเฉพาะเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงราคาน้ำมันหรือการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจของแคนาดา ความผันผวนของคู่สกุลเงินนี้จะเพิ่มขึ้น

4 กลยุทธ์ที่ดีที่สุดในช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก 

ตามความผันผวนและสภาพคล่องที่สูงในช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก นักเทรดสามารถใช้กลยุทธ์ที่แตกต่างกันเพื่อเพิ่มศักยภาพในการทำกำไร ต่อไปนี้คือกลยุทธ์บางประการที่เหมาะสมสำหรับการใช้ในช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก: 
  1. การซื้อขายตามแนวโน้ม: เนื่องจากช่วงการซื้อขายนิวยอร์กมักจะมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจที่สำคัญ เช่น ข้อมูลการจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐหรือการตัดสินใจของคณะกรรมการตลาดกลางสหรัฐ (FOMC) ตลาดมักจะมีแนวโน้มที่แข็งแกร่ง นักเทรดสามารถทำการซื้อขายตามแนวโน้มตามการเคลื่อนไหวของตลาดหลังจากเหตุการณ์เหล่านี้
  2. กลยุทธ์การเบรก: ในช่วงเวลาที่มีการทับซ้อนระหว่างตลาดนิวยอร์กและลอนดอน ตลาดมีความผันผวนสูงและมีแนวโน้มที่จะเกิดการเบรกของราคา นักเทรดสามารถรอให้ตลาดเบรกระดับแนวรับหรือแนวต้านที่สำคัญก่อนที่จะทำการซื้อขายตามแนวโน้ม
  3. การซื้อขายภายในวัน: เนื่องจากความผันผวนสูงและสภาพคล่องที่เพียงพอในช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก นักเทรดภายในวันสามารถใช้ประโยชน์จากการเคลื่อนไหวของราคาในระยะเวลาสั้น ๆ โดยการเข้าและออกจากตลาดหลายครั้งเพื่อทำกำไรเล็กน้อยแต่บ่อยครั้ง
  4. กลยุทธ์การซื้อขายข่าว: ช่วงการซื้อขายนิวยอร์กมักจะมีการประกาศข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐ ดังนั้นกลยุทธ์การซื้อขายข่าวจึงเป็นกลยุทธ์ที่ได้รับความนิยมในช่วงเวลานี้ นักเทรดสามารถทำการซื้อขายอย่างรวดเร็วตามการตอบสนองของตลาดต่อข้อมูลเศรษฐกิจ

5 ข้อดีและความท้าทายของช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก 

ข้อดี: 
  • ความสภาพคล่องและความผันผวนสูง: ช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทับซ้อนกับช่วงลอนดอน มอบสภาพแวดล้อมการตลาดที่ดีให้กับนักเทรด สภาพคล่องสูง, สเปรด ต่ำ ทำให้ต้นทุนในการเข้าและออกจากตลาดต่ำลง
  • การประกาศข้อมูลเศรษฐกิจจำนวนมาก: ข้อมูลเศรษฐกิจของสหรัฐมีผลกระทบอย่างมากต่อ ตลาดทั่วโลก นักเทรดสามารถใช้ประโยชน์จากความผันผวนของตลาดหลังจากการประกาศข้อมูลเหล่านี้เพื่อทำกำไร
  • โอกาสในการซื้อขายคู่สกุลเงินที่หลากหลาย: ในช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก คู่สกุลเงินที่เกี่ยวข้องกับดอลลาร์มีความผันผวนสูงที่สุด แต่คู่สกุลเงินอื่น ๆ เช่น EUR / USD, GBP / USD, USD /JPY ก็มีโอกาสในการซื้อขายที่หลากหลายเช่นกัน
ความท้าทาย: 
  • ความผันผวนของตลาดสูงเกินไป: แม้ว่าความผันผวนสูงจะเป็นประโยชน์ต่อผู้เทรดระยะสั้น แต่สำหรับนักเทรดมือใหม่อาจเพิ่มความเสี่ยง โดยเฉพาะเมื่อราคามีการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว อาจทำให้ถูกตลาดชี้นำผิด
  • ความเสี่ยงของการเบรกปลอม: ความผันผวนสูงในช่วงการซื้อขายนิวยอร์กบางครั้งอาจทำให้เกิดการเบรกปลอมในตลาด นั่นคือ ราคาจะเบรกระดับแนวรับหรือแนวต้านชั่วคราวแล้วกลับตัวอย่างรวดเร็ว นี่เป็นความท้าทายที่นักเทรดที่พึ่งพากลยุทธ์การเบรกต้องระมัดระวัง

สรุป 

ช่วงการซื้อขายนิวยอร์กเป็นหนึ่งในช่วงเวลาที่มีความเคลื่อนไหวและความผันผวนมากที่สุดในตลาดแลกเปลี่ยนเงินตรา โดยเฉพาะในช่วงเวลาที่ทับซ้อนกับช่วงการซื้อขายลอนดอน ตลาดมีความเคลื่อนไหวสูงสุด ผ่านการเข้าใจลักษณะของช่วงการซื้อขายนิวยอร์ก, คู่สกุลเงินหลัก และกลยุทธ์การซื้อขายที่ดีที่สุด คุณสามารถเพิ่มโอกาสในการซื้อขายของคุณในช่วงเวลานี้ ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเทรดระยะสั้นหรือนักเทรดภายในวัน ช่วงการซื้อขายนิวยอร์กมีโอกาสและความท้าทายมากมาย เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการทำกำไรในตลาดที่มีความผันผวนสูง